รู้จักกับ Odoo

Odoo คือซอฟท์แวร์สำหรับบริหารจัดการ และวางแผนการใช้ทรัพยากร หรือเราอาจจะได้ยินในชื่อ อีอาร์พี (ERP: Enterprise Resource Planing) ก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าองค์กรธุรกิจยุคใหม่ในยุคปัจจุบัน ที่มีการแข่งขันกันอย่างสูง ทั้งในแง่การผลิตที่ต้องรวดเร็ว ส่งมอบอย่างตรงเวลา พร้อมกันกับการบริหารต้นทุนให้มีลดลงอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ย่อมที่จะต้องใช้เครื่องมือ ซึ่งก็คือซอฟท์แวร์เข้ามาช่วยวางแผน จัดลำดับความสำคัญ พร้อมกับคำนวณค่าพยากรณ์ และแนวโน้มต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังที่กล่าวมาในขั้นต้น
ERP จะประกอบด้วยส่วนงานย่อยๆ (โมดูล) โดยทุกงานจะต้องเชื่อมโยงด้วยข้อมูลชุดเดียวกัน เพื่อความเป็นเอกภาพของข้อมูล และสามารถที่จะดูรายงาน ในหลายๆ มุมมองได้ ซึ่งส่วนงานย่อยๆ ที่สำคัญที่องค์กรมักขาดไม่ได้ ประกอบด้วย ระบบบัญชี (Accounting), ระบบจัดซื้อ (Purchasing), ระบบงานขาย (Sales), ระบบคลังสินค้า (Inventory), ระบบการผลิต (Manufacturing) และระบบทรัพยากรบุคคล (Human Resource) เป็นต้น ส่วนระบบงานรองลงมา ได้แก่ ระบบบริหารโครงการ (Project Management), ระบบขายหน้าร้าน (Point of Sale) และระบบขายออนไลน์ (E-Commerce) เป็นต้น
ซอฟท์แวร์ ERP ในปัจจุบัน ถูกแบ่งกลุ่มออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งได้แก่กลุ่มซอฟท์แวร์ระดับโลก ได้แก่ SAP, Microsoft Dynamic, Maximo และ B1 เป็นต้น กลุ่มนี้มักนิยมใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากความน่าเชื่อถือสูง รองรับข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ดี และยังได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ในประเทศ อีกด้วย หากท่านมีงบประมาณตั้งแต่ 2-5 ล้านเป็นต้นไป หากต้องการเลือกใช้ซอฟท์แวร์เข้ามาบริหารงานแนะนำให้เลือกกลุ่มนี้ เนื่องจากความน่าเชื่อถือ และการดูแล แก้ไข พร้อมกับปรับแต่งสิ่งต่างๆ ตามความต้องการขององค์กรนั่นเอง
สำหรับปัญหาของการใช้ซอฟท์แวร์ระดับโลก หลักๆ คือราคาที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มนำมาใช้งาน, การปรับแต่ง, ค่าบำรุงรักษาประจำปี รวมไปถึงค่าฝึกอบรม เป็นต้น ซึ่งบริษัทของท่านจะต้องสำรองงบประมาณไว้ในแต่ละปี (Budget) ในระดับที่มากกว่า 1 ล้านบาท
กลุ่มที่สองก็คือ ซอฟท์แวร์สำเร็จรูป ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด ได้แก่โปรแกรมบัญชี, โปรแกรมการขาย, โปรแกรมการผลิต และโปรแกรมบริหารงานบุคคล เป็นต้น ข้อดีของซอฟท์แวร์แบบนี้คือ ราคาที่ถูกกว่า และตรงกับความต้องการของผู้ใช้ในเมืองไทย
แต่ข้อเสีย หรือข้อจำกัดของการใช้ซอฟท์แวร์สำเร็จรูปก็คือ ข้อมูลที่ได้ไม่เชื่อมโยงกัน เพราะเป็นโปรแกรมแยก, ความยุ่งยากในการแก้ไข ปรับแต่งระบบ, ความน่าเชื่อถือของในบางบริษัทไม่มี เมื่อนำซอฟท์แวร์ไปใช้อาจจะมีความผิดพลาด และไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควรก็เป็นได้ ซึ่งผู้เขียนแนะนำให้วางระบบ ERP ให้ดีก่อน แล้วจึงซื้อซอฟท์แวร์สำเร็จรูปมาแก้ปัญหาเฉพาะบางโมดูลที่ ERP ทำได้ไม่ดี เช่น ซื้อโปรแกรม Express มาใช้ในแผนกบัญชี แต่ก็ยังมีระบบ SAP อยู่ เป็นต้น
สุดท้ายก็คือกลุ่มซอฟท์แวร์ ERP ที่เป็นโอเพ่นซอร์ส (Open Source) ได้แก่ Odoo และ ERPNext เป็นต้น กลุ่มนี้มีความสามารถเทียบเท่ากับซอฟท์แวร์ระดับโลก ในราคาที่ถูกลง และมีโมดูลต่างๆ ให้เลือกอย่างมากมาย ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับองค์กร และงบประมาณที่มีได้ ซึ่งหากกิจการท่านอยู่ในระดับกลาง หรือขนาดเล็ก ที่มีงบประมาณ 1 แสนถึง 1 ล้านต้นๆ แนะนำให้ใช้ซอฟท์แวร์กลุ่มนี้ เนื่องจากราคา และความสามารถในการปรับแต่งระบบให้เข้ากับองค์กรของท่านได้ด้วย
ปัจจุบัน Odoo ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง จากบริษัทต่างๆ ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และยังมีผู้ให้บริการติดตั้ง ดูแล ปรับแต่งระบบ และฝึกอบรม ที่เป็นบริษัทในประเทศไทยอยู่มากมาย ถึงแม้ Odoo จะเป็น Open Source ที่มีความน่าเชื่อถืออาจจะน้อยกว่าซอฟท์แวร์ระดับโลก แต่ด้วยเงื่อนไขค่าใช้จ่าย ฟีเจอร์ที่มีให้ และผู้ใช้จำนวนมากมายในประเทศไทย จึงเป็นเครื่องการันตีได้ว่า ท่านจะไม่เกิดปัญหาอยู่เพียงผู้เดียว จะมีผู้ดูแลระบบให้ท่าน และช่วยปรับแต่งแก้ไขซอฟท์แวร์ตามความต้องการของธุรกิจได้อย่างแน่นอน
ทีมงาน Odoothaidev รับให้คำปรึกษา พัฒนาระบบ ติดตั้ง และฝึกอบรมซอฟต์แวร์ Odoo สนใจสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 063-5525296,
LINE: a.andaman
หรืออีเมล์ odoothaidev@gmail.com ได้ทุกเวลา เรายินดีให้คำปรึกษาฟรี! ครับ